Saturday, March 3, 2018

บทวิเคราะห์ภูมิรัฐศาสตร์ไทยในระเบียงเศรษฐกิจ เหนือ-ใต้-ออก-ตก


ภูมิรัฐศาสตร์ไทยในระเบียงเศรษฐกิจ เหนือ-ใต้-ออก-ตก


โลกเปลี่ยนเร็ว มีการแข่งขันสูงจากการเชื่อมต่อที่ไร้พรมแดน กำลังจะก้าวพ้นจากกลไกเศรษฐกิจแบบเก่าที่ตะวันตกครอบงำ(และยังพยายามครอบงำอยู่!) แม้เทคโนโลยียุคใหม่ได้ทำลายกลระบบ “คนกลาง” และระบบ “ไล่ล่า” ไปเกือบราบคาบแล้ว แต่อำนาจที่ผูกโยงอยู่กับความสัมพันธ์ของลัทธิล่าอาณานิคม และความเคยชินของจิตวิญญาณรับใช้อาณานิคมยังเร่าร้อนอยู่กับคนบางกลุ่ม จึงส่งผลต่อการปรับตัวเปลี่ยนผ่านให้เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ!

โลกปัจจุบัน ยุคที่ “จีน” ผงาดขึ้นเป็นผู้นำ-ผู้สานต่อความอยู่รอดของเศรษฐกิจทุนนิยมโลก เป็นเรื่องที่เสียดแทงใจชนผิวขาวมาก! การดิ้นรนต่อต้าน-สร้างยุทธศาสตร์หยุดยั้งทำลายความก้าวหน้าของระบบ “เศรษฐกิจพันธมิตร” ที่เป็นข้อเสนอของจีนต่อพันธมิตรทั้งหลาย จึงเป็นเรื่องที่ต้องหยุดยั้งต่อต้านจากอดีตตำรวจโลก!
การนำจีนกลับมายิ่งใหญ่ในยุค สีจิ้น ผิง ไม่ได้เกิดขึ้นจากความบังเอิญหรือถูกชตากรรมใด ๆ กำหนดทั้งสิ้น! แต่เกิดจากการสร้างทำและแผนงานยุทธศาสตร์ที่ชาญฉลาด นับแต่การปฏิวัติเศรษฐกิจจีนยุคเติ้งเสี่ยวผิงแบบ ๑ ระบอบ ๒ ระบบ หลังการปรับตัวอย่างหนักในช่วงที่อเมริกายื่นมือผลักดันให้จีนก้าวออกจากบริบทเศรษฐกิจคอมมิวนิสต์สู่การเป็น “โรงงานโลก” ตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ตามคำชี้แนะของบาซินสกี้นักยุทธศาสตร์ที่ปรึกษาประธานาธิบดีอเมริกาคนสำคัญหลายยุคสมัย เพื่อมุ่งแยกจีนออกจากรัฐเซียมุ่งให้คอมมิวนิสต์สูญพันธุ์! แต่กลไกเศรษฐกิจนั้นเป็นคลื่นความเคลื่อนไหวที่เสมือนมีชีวิต มีขึ้น-ลง มีรุ่งเรือง-ตกต่ำ มีพลังต่อความเคลื่อนไหวของภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐกิจโลกในกระแสที่เกิดขึ้นแต่ละช่วงยุคสมัย!

เศรษฐกิจที่ชะงักงันของจีนในช่วงศตวรรษที่ 20 เกิดชะงักยาวนานนับสิบ ๆ ปี แต่ก็ต่อยอดฐานเดิมสู่ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำในช่วงกว่า 4 ทศวรรษที่ผ่านมา จนวันนี้จีนเป็นพญามังกรที่ติดปีกร่ายรำเชื่อมโยงอำนาจและความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับทุกทวีปทั่วโลก การเชื่อมต่อกับเส้นทางการค้าใหม่ one belt - one road ที่จีนทุ่มสร้างเชื่อมโลกของไทย จะเปิดโอกาสให้เศรษฐกิจไทยเชื่อมต่อกับโลกยุคใหม่ในแนวการค้าระเบียงเหนือใต้ตามแนวจุดตั้งภูมิเศรษฐกิจไทย ขณะที่ภูมิรัฐศาสตร์ไทยจะต้องคงความสัมพันธ์แบบรอบด้านไว้ เนื่องจากตำแหน่งแห่งที่ทางภูมิศาสตร์ไทยอยู่ในจุดที่โดดเด่นและมีพื้นฐานของการสร้างมิตรภาพกับโลกรอบข้างมากกว่าที่จะเลือกข้าง-สร้างศัตรูกับใคร!

หลังการผงาดขึ้นของระบบเศรษฐกิจพันธมิตร ที่มีจีนเป็นหัวขบวนในเส้นทางการค้าใหม่ของโลกเชื่อม 65 ประเทศที่วางอยู่บนแนวภูมิเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ของไทย การเชื่อมต่อกับจีนในแนวภูมิเศรษฐกิจดังกล่าวของไทยจะเป็นการเชื่อมต่อกับโลกไปโดยปริยาย ซึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการจัดการและการผลิตคิดสร้างบนฐานการพัฒนาเศรษฐกิจยุคใหม่ของไทยที่มี EEC เป็นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่!

สำหรับเส้นทางเศรษฐกิจใหม่อีกเส้นทางหนึ่ง ที่ถูกปลุกขึ้นมาจากการประชุมอาเซียนเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน คราวที่โดนัลด์ ทรัมป์ กอดคอกับพันธมิตรอย่างญี่ปุ่น ก็นับเป็นอีกเส้นทางเศรษฐกิจใหม่เส้นทางหนึ่งที่มะกันเรียกขานว่า อินโด-แปซิฟิก! ซึ่งเป็นภูมิเศรษฐกิจแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตกนั่นเอง ที่เชื่อมจากญี่ปุ่นสู่อินเดีย ผ่านเวียดนาม กัมพูชา ไทย พม่า เข้าอินเดีย ส่วนด้านล่างออกมหาสมุทรอินเดียผ่านเอเชียใต้ ตะวันออก กลาง และเข้าเชื่อมแอฟริกา ซึ่งเป้าหมายเศรษฐกิจการค้าที่ญี่ปุ่นจับมืออเมริกา-อินเดีย วางเป้าหมายสู่ “ตลาดบน” กลุ่มตะวันออก กลางและยุโรปใต้!

กลไกความเคลื่อนไหวของภูมิรัฐศาสตร์และกระแสช่วงชิงอำนาจทางการค้าเศรษฐกิจในกระแสโลก ในยุคที่โลกไร้สงครามแต่ก็ไม่มีสันติภาพนี้ ความโดดเด่นของภูมิศาสตร์ไทยปรากฏความได้เปรียบขึ้นโดดเด่น ขึ้นอยู่กับว่าไทยจะขับเคลื่อนความร่วมมือ การเชื่อมต่อ และการปรับตัวเปลี่ยนผ่านจากความเทอะทะล้าหลังของระบบราชการที่ครอบงำอยู่ได้แค่ไหน? เพียงไร? รวมทั้งการจัดการบริหารพื้นที่การผลิต-การสร้างความก้าวหน้าใหม่อย่าง EEC ไปได้ไกลและยั่งยืนเพียงใด?
ภูมิเศรษฐกิจที่เป็นต่อได้เปรียบที่มีอยู่
ถ้าขาดยุทธศาสตร์การบริหารจัดการและ
ความร่วมมือกับโลก ก็จะเป็นเพียงความว่างเปล่าที่ไม่ก่อมรรคผลอันใด!


ความเคลื่อนไหวของเส้นทางการค้าที่สอง
ฟากฝั่งกระแสนำโลกกำหนดขึ้น ไม่ว่าระเบียงเหนือ-ใต้ หรือ ระเบียงตะวันออก-ตะวันตก
ล้วนมีประเทศไทยตั้งอยู่โดดเด่นยิ่ง! การจัดการพื้นที่การผลิต-ระบบการผลิต กลไกกฎหมายและการพัฒนายุคใหม่ การเร่งสร้าง-พัฒนาบุคลากร การถ่ายโยงความรู้และการพัฒนาเทคโนโลยีกับประเทศที่มีความก้าวหน้า การหนุนสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น ตลอดจนการจัดปรับการบริหารท้องถิ่นในเขตการพัฒนาพิเศษ ล้วนเป็นความจำเป็นในการสร้างโอกาสและความก้าวหน้าครั้งใหญ่ของประเทศ!
การขยับก้าวของสังคมเศรษฐกิจไทยในกระแสภูมิรัฐศาสตร์ยุคใหม่วันนี้ เป็นการขยับก้าวที่เชื่อมต่อกับโลกที่มีความมั่งคั่งยั่งยืนทางเศรษฐกิจเป็นผลตอบแทนอย่างมีนัยสำคัญ 
ถ้าผู้นำประเทศคิดเป็น-ทำเป็น-วิสัยทัศน์กว้างไกล ประเทศไทยก็จะขยับตัวสร้างความก้าวหน้าได้โดดเด่นในทุกมิติ เว้นเสียแต่จะกลับลำเผชิญกับความหื่นดิบทางการเมืองแบบที่เคยเป็นมาอีกครั้ง! กรณีดังกล่าวประเทศก็จะจมอยู่ในสงครามความขัดแย้งที่นำสู่ความพินาศย่อยยับอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้!
นี่คือหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ!

(โลกใบใหม่ ไทยโพสต์ เสาร์ที่ 24-2-61)

No comments:

Post a Comment