Wednesday, July 27, 2016

ถอดบทเรียนแสงเทียนแห่งล้านนา โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕

ถอดบทเรียนแสงเทียนแห่งล้านนา การบริหารจัดการศึกษาขั้นเทพ กรณีศึกษา การขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ของคณะสงฆ์อำเภอเชียงแสน
๑. ข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ จากสถานการณ์บ้านเมืองในห้วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหามากมาย ประกอบด้วยการกระทำผิดกฎหมาย ปัญหาอาชญากรรม การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม การระบาดของสิ่งเสพติด และอบายมุข การแตกแยกทางความคิด การเห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม และการจาบจ้วงดูหมิ่นสถาบันหลักของชาติ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนเกิดจากการขาดสติ จิตสำนึก ศีลธรรมและคุณธรรมจริยธรรม อันจะส่งผลให้สังคมเกิดความขัดแย้ง คณะสงฆ์ โดย เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มีดำริที่จะเสริมสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ของคนในชาติ ให้เกิดความสงบ สันติสุข มีความสามัคคีกลมเกลียวกัน โดยให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมนำหลักศีล ๕ มาประพฤติปฏิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวัน กอรปกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้แนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการให้ทุกภาคส่วนในประเทศร่วมมือกันดำเนินการสร้างความปรองดองสมานฉันท์และทำให้ประชาชนมีความรักความสามัคคีกันโดยเริ่มจากครอบครัว หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ซึ่งจะนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างปลอดภัยยั่งยืน โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะหน่วยงานราชการที่มีภารกิจในการส่งเสริมให้สังคมไทย มีศีลธรรม และคุณธรรมจริยธรรม ตามแนวทางของพระพุทธศาสนา จึงได้กำหนดกิจกรรมในการสนับสนุนส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชนทุกเพศทุกวัยได้นำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาไปพัฒนาชีวิต ครอบครัว ชุมชน และสังคม โดยเน้นการรณรงค์ ส่งเสริม และสนับสนุนให้มี “หมู่บ้านรักษาศีล ๕” ขึ้นในทุกส่วนของประเทศ ตามดำริที่เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ได้ประทานโอวาทไว้ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ความว่า “อันว่าศีล ๕ เป็นการสำคัญมนุษย์ เมื่อทุกคนมีศีล ๕ ด้วยกัน สังคมนั้นๆ คือ ประชาชนย่อมจะอยู่เย็นเป็นสุข เมื่อเป็นไปได้ ขอให้ชื่อหมู่บ้านนั้นว่า หมู่บ้านรักษาศีล ๕” ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มอบหมายภารกิจให้ส่วนราชการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ แก่ประชาชนในชาติ โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายในการดำเนินการพร้อมกันทั้ง ๗๖ จังหวัด ซึ่งปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ไว้เป็น ๒ ระดับ หรือ ๒ ระยะ ดังนี้ ๑.๑ โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ระดับ ๑ เก็บกำข้อมูล (Data Base) โดยให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมนำหลักศีล ๕ มาประพฤติปฏิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวัน ตามแนวทางของหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล จำนวน ๕,๙๑๔ หน่วยทั่วประเทศ ที่ได้ดำเนินการตามหัวข้ออบรม ๘ หัวข้อ คือ ศีลธรรมและวัฒนธรรม สุขภาพอนามัย สัมมาชีพ สันติสุข ศึกษาสงเคราะห์ สาธารณสงเคราะห์ กตัญญูกตเวทิตาธรรม และสามัคคีธรรม โดยมอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมกับคณะสงฆ์ หน่วยงานราชการ สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาคเอกชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรเครือข่ายชาวพุทธ ได้ขับเคลื่อนโครงการเพื่อสนับสนุนนโยบายดังกล่าว โดยกำหนดเป้าหมายทุกตำบล ทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ พร้อมทั้งตั้งเป้าตัวชี้วัด ให้เกิดสัมฤทธิผลอย่างเป็นรูปธรรม ภายใน ๔ ปี (ปี ๒๕๕๗ - ๒๕๖๐) ๑.๑.๑ วิธีการดำเนินการ ให้วัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้านหรือประธานชุมชนเปิดรับสมัครประชาชนเข้าร่วมโครงการฯ หากมีประชาชนเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่ ๕๐ เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ให้แจ้งสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หมู่บ้านที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว สามารถขอรับแผ่นป้ายไม้หมู่บ้านรักษาศีล ๕ เพื่อติดตั้ง ณ หมู่บ้านของตน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ขณะนี้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้จัดสรรงบประมาณประชาสัมพันธ์ เชิญชวนประชาชนทั้งประเทศเข้าร่วมโครงการ โดยได้จัดทำป้ายไวนิลประชาสัมพันธ์ส่งไปยังวัดทุกวัดทั่วประเทศแล้ว ขณะเดียวกันก็มีสถานศึกษา โรงเรียนต่างๆ ขอเข้าร่วมโครงการด้วย ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานกลางโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ (วัดปากน้ำ) ก็ได้จัดทำป้ายไวนิลให้โรงเรียนที่ขอมาทั่วประเทศเช่นกัน สำหรับหมู่บ้านที่ดำเนินการไปแล้ว มีประชาชนเข้าร่วมโครงการมากกว่าร้อยละ ๘๐ ให้แจ้งสำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดทราบ เพื่อทางส่วนกลางจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประเมิน และจัดทำโล่ประกาศเกียรติคุณ เพื่อมอบให้หมู่บ้านนั้นต่อไป ๑.๑.๒ วิธีการสมัคร ๑. ท่านที่มีความตั้งใจจริงที่จะรักษาศีล ๕ และมีพันธสัญญาทางใจที่จะพัฒนาการรักษาศีลให้ได้เคร่งครัดต่อไป ๒. ติดต่อขอรับใบสมัครได้ที่วัด สถานศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด หน่วย อบต. และที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ สำนักงานกลางโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ วัดปากน้ำ กทม. และรับของที่ระลึกโครงการ หรือ ดาวน์โหลดใบสมัครที่นี่ ๓. ส่งใบสมัคร ณ สถานที่รับใบสมัครมา หรือ กรอกข้อมูลด้วยตนเองทางเว็บไซต์ www.sila5.com ๑.๒ โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ระดับ ๒ ครอบครัวอบอุ่น (Happiness Family) โครงการหมู่บ้านและโรงเรียนรักษาศีล ๕ ครอบครัวอบอุ่น (หรือโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ระดับ ๒) คือโครงการนำธรรมะสู่ภาคปฏิบัติ ฝึกฝนพัฒนาให้เป็นนิสัย โดยรณรงค์ให้สมาชิกหมั่นทำ 7 กิจวัตรความดีจนเป็นนิสัย อันได้แก่ ๑) รักษาศีล ๕ ๒) สวดมนต์ นั่งสมาธิ ๓) จัดเก็บห้องนอน ห้องน้ำให้สะอาด เป็นระเบียบ ๔) จับดีคนรอบข้าง ๕) พูดจาไพเราะ ๖) บำเพ็ญประโยชน์ ๗) ร่วมกิจกรรมชั่วโมงสุขจริงหนอ เพราะ “นิสัยที่ดี เป็นรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ครอบครัวอบอุ่น และเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสังคมที่สงบสุข” โดยยึดหลักการสำคัญ คือ “เปลี่ยนแปลงจากภายในสู่ภายนอก” โดยอุปนิสัยที่รณรงค์ให้สมาชิกหมั่นปฏิบัติมีอยู่ ๗ ข้อ เรียกว่า ๗ กิจวัตรความดี ถ้าฝึกฝน พัฒนาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ จะส่งผลให้ครอบครัวอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มีความอบอุ่น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่นำไปสู่คุณธรรมอื่น ๆ ที่สูงยิ่งขึ้นไป เช่นความเคารพ ความกตัญญู ความอดทนเสียสละ เป็นต้น ๑.๒.๑ เป้าหมายสำคัญ ๑. นำธรรมะไปสู่ภาคปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักศีล ๕ ๒. ครอบครัวอบอุ่น สังคมสงบสุข เกิดความปรองดองสมานฉันท์ ๓. เด็กและเยาวชนห่างไกลยาเสพติด และอบายมุขต่าง ๆ ๔. พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง ๑.๒.๒ ๗ กิจวัตรความดี ประกอบด้วย ๑. รักษาศีล ๕ ๒. สวดมนต์ นั่งสมาธิ ๓. จัดเก็บห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัวให้สะอาด เป็นระเบียบ ๔. คิดดี...ด้วยการจับดีคนรอบข้าง ๕. พูดดี...ด้วยการพูดจาไพเราะ ๖. ทำดี...ด้วยการทำบุญหรือบำเพ็ญประโยชน์อย่างน้อย ๑ เรื่อง ๗. ร่วมกิจกรรมชั่วโมงสุขจริงหนอ ช่วงเวลาที่สมาชิกมาทำดีร่วมกัน ทั้งอาราธนาศีล ๕ สวดมนต์นั่งสมาธิ แบ่งปันประสบการณ์ที่ดี ๆ ที่เกิดจากการทำ ๖ กิจวัตรความดี และได้ฟังธรรมะที่ตอกย้ำความสำคัญของการทำ ๖ กิจวัตรความดี ซึ่งกิจกรรมชั่วโมงสุขจริงหนอนี้ จะช่วยเสริมสร้างกำลังใจในการทำความดีของสมาชิกให้มีความมั่นคง และ เข้มแข็งขึ้น ข้อ ๑ – ๖ เป็นนิสัยประจำวัน ทำที่บ้าน ที่โรงเรียน หรือที่ทำงานของตนเอง ข้อ ๗ เป็นนิสัยประจำสัปดาห์ ร่วมกันในสถานที่ใช้เป็นศูนย์รวมใจสมาชิกหมู่บ้านหรือโรงเรียนรักษาศีล ๕ ๑.๒.๓ ขั้นตอนกิจกรรมชั่วโมงสุขจริงหนอมีอะไรบ้าง ? ๑. ลงทะเบียน ๒. อาราธนาศีล ๓. สวดมนต์ทำวัตรเย็น ๔. นั่งสมาธิ ๕. อ่านธรรมะโดยผู้เข้าร่วมกิจกรรม (สลับหมุนเวียนกันแต่ละสัปดาห์) ๖. บรรยายธรรมะประกอบสื่อโดยวิทยากร ๗. พูดข้อคิดที่ได้โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรม ๘. สรุปข้อคิดโดยวิทยากร ๙. แชร์ประสบการณ์ทำความดี ๑๐. อธิษฐานจิตร่วมกัน ๑๑. แจ้งข่าวสารต่างๆ อนุโมทนาบุญกับเจ้าภาพ ๑๒. ถ่ายรูปร่วมกัน ๑.๒.๔ ขั้นตอนดำเนินงาน ๒. แรงจูงใจที่ทำให้เขาหรือเราสนใจเรื่องนี้ คือ วิธีการดำเนินการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ของคณะสงฆ์อำเภอเชียงแสน ซึ่งได้รับนโยบายจากคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย โดยเริ่มจาก ระดับที่ ๑ คือ การเก็บกำข้อมูลแต่ละหมู่บ้านในเขตปกครองของตน ซึ่งได้ดำเนินการดังนี้ ๑. ให้วัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้านหรือประธานชุมชนเปิดรับสมัครประชาชนเข้าร่วมโครงการฯ ๒. ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่ ๕๐ เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปจะได้รับขึ้นทะเบียนเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ๓. หมู่บ้านที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว จะได้รับแผ่นป้ายไม้หมู่บ้านรักษาศีล ๕ เพื่อติดตั้ง ณ หมู่บ้านของตน พร้อมด้วยสถานศึกษา และโรงเรียนต่างๆ ๔. ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการมากกว่าร้อยละ ๘๐ ทางส่วนกลางจะส่งเจ้าหน้าที่มาประเมิน และจัดทำโล่ประกาศเกียรติคุณ เพื่อมอบให้หมู่บ้านนั้นต่อไป ระดับที่ ๒ คือ การทำให้ครอบครัวอบอุ่น โดยรณรงค์เรื่องการนำธรรมะไปสู่ภาคปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ฝึกฝนพัฒนาสร้างนิสัยที่ดี โดยการ “คิดดี พูดดี ทำดี” อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอทั้งรูปธรรมและนามธรรม ได้คัดสรร คัดเลือกหมู่บ้านที่มีผลงาน และมีแนวปฏิบัติที่เห็นได้ชัดเจน เช่น ในหมู่บ้านอยู่กันอย่างสันติสุข ไม่มีการลักเล็กขโมยน้อย ครอบครัวมีสุข ประชาชนในหมู่บ้านนั้นๆมีความขยันหมั่นเพียร มีสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดีกันทั่วหน้า ทำเป็นโครงการขึ้นมา ๑ โครงการ ๑ หมู่บ้าน ๑ ตำบล จนถึงปัจจุบันนี้คณะสงฆ์อำเภอเชียงแสน รวมทั้งอำเภอต่างๆ ของจังหวัดเชียงราย ได้ดำเนินการแล้ว ส่งโครงการฯ ให้เจ้าคณะจังหวัดแล้วทั้งสิ้น ๑๔๐ โครงการ ผลออกมาอย่างไรก็จะได้นำไปขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต่อไป ดังนั้นผู้ศึกษาจึงเกิดความสนใจเป็นอย่างยิ่งและอยากให้มีการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ในระดับที่ ๓ อีกต่อไป ๓. สภาพก่อนที่จะดำเนินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ เนื่องด้วยสถานการณ์บ้านเมืองในห้วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหามากมาย ประกอบด้วยการกระทำผิดกฎหมาย ปัญหาอาชญากรรม การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม การระบาดของสิ่งเสพติด และอบายมุข การแตกแยกทางความคิด การเห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม และการจาบจ้วงดูหมิ่นสถาบันหลักของชาติ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนเกิดจากการขาดสติ จิตสำนึก ศีลธรรมและคุณธรรมจริยธรรม อันจะส่งผลให้สังคมเกิดความขัดแย้งมากขึ้น ๔. เหตุปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อสภาพการจัดทำโครงการ คือ เรื่องของหลักศีลธรรมหรือหลักของศีล ๕ ซึ่งเป็นหลักจำเป็นในสังคมมนุษย์ที่จะต้องปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปกติ ทั้งในตนเองและสังคม เพราะช่วยควบคุมความประพฤติมิให้พลาดถลำลงในความชั่วอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงจัดอยู่ในระดับศีลธรรมอันเป็นมูลฐานที่จะนำไปสู่ความสงบของจิตใจ ถ้าหากความสะอาดทางกายและวาจาไม่มีแล้ว เราก็ไม่สามารถทำจิตใจให้สงบได้ แต่ในทางกลับกันคนไทยที่นับถือพระพุทธศาสนา ส่วนมากเป็นเพียงตามทะเบียนบ้านเท่านั้น ถ้าชาวพุทธไม่ช่วยกันดำรงรักษาประพฤติปฏิบัติอยู่ในหลักศีล ๕ ข้อแล้ว อนาคตก็มีผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสสร้างความแตกแยกระหว่างชาวพุทธด้วยกันและสังคมในชาติอันเป็นบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาในประเทศไทยทั้งทางตรงและทางอ้อมได้ ดังนั้นจึงเป็นเหตุปัจจัยสำคัญต่อการนำพระดำริของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ให้มีโครงการขับเคลื่อนหมู่บ้านรักษาศีล ๕ เพื่อเสริมสร้างและสมานฉันท์ของคนในชาติ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาให้เกิดความสงบ สันติสุข มีความสามัคคีกลมเกลียวกันสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ๕. จุดหมายใหม่ของโครงการ คือ ดำเนินกิจกรรม “ศีล ๕ สัญจร บวรร่วมมือ” ๕.๑ วิสัยทัศน์ “คิดดี พูดดี ทำดี” ๕.๒ เป้าหมายสำคัญ ๑. นำธรรมะไปสู่ภาคปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิงหลักศีล ๕ ๒. ครอบครัวอบอุ่น สังคมสงบสุข เกิดความปรองดองสมานฉันท์ ๓. เด็กและเยาวชนห่างไกลยาเสพติด และอบายมุขต่าง ๆ ๔. พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง ๕.๓.เป้าประสงค์ - ด้านปริมาณ คือ เริ่มจากครอบครัว หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ทั่วประเทศ - ด้านคุณภาพ คือ คนในหมู่บ้านมีศีล ๕ ผู้คนอยู่กันอย่างสันติสุข ไม่มีการลักเล็กขโมยน้อย ครอบครัวมีสุข มีความขยันหมั่นเพียร มีสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดีกันทั่วหน้า ๖. MBI นวัตกรรมมีการบริหารงานอย่างไร? ขณะนี้กำลังอยู่ที่การดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการ “ศีล ๕ สัญจร บวรร่วมมือ” โดยคณะสงฆ์จังหวัดเชียงรายร่วมกับจังหวัดเชียงราย เป็นโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านศีล ๕” ระยะที่ ๓ ระดับคุณภาพ ณ วัดพระธาตุผาเงา ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย วันที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๙ ดำเนินงานโดย คณะสงฆ์อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดย Phra Somsack Vilayphonh รหัสนักศึกษา ๕๘๘๙๑๔๐๐๕ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

No comments:

Post a Comment